ARIVA MORINGA http://arivamoringa.siam2web.com/

แพทย์แผนไทยและอินเดีย รู้จักนำประโยชน์ของมะรุมมาใช้ในทางการแพทย์นานแล้ว  แต่สำหรับประเทศไทยเพิ่งจะมารู้จักคุณสมบัติของมะรุมกันอย่างแพร่หลายเมื่อไม่นานมานี้เองแต่ก่อน คนไทยรู้จักมะรุมเพียงในฐานะของพืชผักพื้นบ้านที่สามารถรับประทานได้ทั้ง ดอก ใบ และฝัก โดยนิยมนำมาปรุงอาหารสดๆ เช่น แกงส้ม และเป็นผักแนมกับน้ำพริก 

ภายหลัง เมื่อมีผู้ป่วยที่หายจากโรคร้ายต่างๆ ด้วยการรับประทานใบมะรุม  จึงเป็นที่ยอมรับกันต่อมาว่า การรับประทานใบมะรุมอบแห้งเป็นประจำ วันละ 2-4 เม็ดเหมือนยาฝรั่ง ก็สามารถรักษาอาการป่วยได้หลากหลาย ชนิดที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน

ประโยชน์ของมะรุม มีมามายมหาศาล

      1.ใช้บำบัดโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้ดี
      2.ใช้บำบัดผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
      3.ใช้บำบัดโรคความดันโลหิตสูง และ ภาวะไขมันในเส้นเลือดผิดปกติ
      4.ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย หากรับประทานผลิตผลจากมะรุมระหว่างตั้งครรภ์เด็กที่เกิดมาจะไม่ติด เชื้อHIV นอกจากนี้ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งยังช่วยให้คนทั่วๆไป สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองได้ 
      5.ช่วยบำบัดผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ การบำบัดโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศแอฟริกา
      6.ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้รักษาพยาบาลง่าย ขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน หาก ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น
      7.ช่วยบำบัดไขข้ออักเสบ เก๊าท์ กระดูกอักเสบ มะเร็งในกระดูก รูมาติซั่ม มีแคลเซี่ยมมากกว่านมถึง 4 เท่า
      8.บำบัดโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น ตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหาร และ ตาต้อ หากรับประทานสม่ำเสมอสุขภาพตาจะค่อยๆ ดีขึ้น
      9.บำบัดโรคลำไส้อักเสบ ท้องเสีย ท้องผูก พยาธิในลำไส้
    10.บำรุงปอดให้แข็งแรง บำบัดโรคทางเดินหายใจ โรคปอด และ โรคภูมิแพ้
    11.เป็นยาปฏิชีวนะอ่อนๆ จากธรรมชาติ สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แลเชื้อราบางชนิดได้

 น้ำมันมะรุม สามารถบำบัดอาการต่างๆ ได้ดีเช่นกัน โดยไม่ต้องไปผ่านระบบทางเดินอาหารก่อน

-ใช้หยอดจมูกบำบัดโรคภูมิแพ้ ไซนัสโรคทางเดินหายใจ

-ใช้หยอดหูฆ่าและป้องกันพยาธิในหู บำบัดอาการเยื่อบุหูอักเสบ บำบัดโรคหูน้ำหนวก

-ใช้ทาผิว บำบัดโรคผิวหนังจากเชื้อราและเชื้อไวรัส บำบัดโรคเริม งูสวัด บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น

-ใช้ทาบำบัดแผลสด หูด ตาปลา

-ใช้ถูนวดบรรเทาอาการปวดบวมตามข้อ บำบัดไขข้ออักเสบ เก๊าท์   รูมาติก

-ใช้ทารักษาผิวฟกช้ำ ห้อเลือด ปวด บวม

เอกสารอ้างอิง: Nature’s Medicine Cabinet by Sanford Holst
The Miracle Tree by Lowell Fuglie
LA times March 27th 2000 article wrote by Mark Fritz

ประโยชน์จากส่วนต่างๆของต้นมะรุม

ใบสด

ควรรับประทานใบสดที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป การใช้ใบสดปรุง
อาหารต่างๆ สามารถทำได้ตามความต้องการและความถนัด
เนื่องจากใบมะรุมมีธาตุเหล็กสูง ฉะนั้นไม่ควรให้ทารกในวัย
เจริญเติบโตถึง 2 ขวบ รับประทานในปริมาณที่มากเกินไป

ใบมะรุมสดก็เหมือนผักใบเขียวทุกชนิด ไม่ควรรับประทานเป็นจำนวนมาก
เพราะใบมะรุม จัดเป็นยาถ่ายประเภทหนึ่ง เมื่อรับประทานมากอาจทำให้มี
อาการท้องเสียได้

ผู้ที่มีอาการแพ้ภายหลังรับประทานใบมะรุม จะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ในกรณีนี้ให้แนะนำให้รับประทานใบแมงลัก อาการเวียนศีรษะก็จะหายไป

การรับประทานใบตากแห้งจะให้ผลดีกว่าใบสด เพราะสามารถรับประทานได้มากกว่า ผลย่อมดีกว่า การรับประทานใบแห้งอาจชงดื่มเป็นน้ำชาซึ่งอาจให้ผลช้ากว่าในรูป แบบแคปซูล

วิธีทำใบมะรุมตากแห้ง

ก่อนเก็บหนึ่งวันให้ฉีดน้ำล้างใบให้สะอาด จากนั้งนำมาผึ่งให้แห้งในที่ร่ม
ถ้าตากแดดต้องคลุมผ้าให้มิด ใบแห้งสนิทจะสังเกตุได้ง่ายคือใบจะกรอบ
ถ้าจะเก็บไว้ดื่มเป็นชาต้องเก็บในภาชนะที่ทึบแสงป้องกันการเสื่อมคุณภาพ


การทำผงมะรุม

1. บดด้วยเครื่องบดกาแฟ
2. ใส่ครกตำให้ละเอียด
3. ถ้าไม่สามารถหาสิ่งเหล่านี้ได้ ก็ให้เอาใบมะรุมแห้งใส่ตะแกรงถี่ๆ
แล้วใช้แปรงลวดปัดไปปัดมาจะได้ผงมะรุมแห้ง



มะรุมที่ฝักอ่อนมากๆ ขณะที่เปลือกยังไม่แข็งจะมีรสชาติคล้ายถั่วฝักยาว
นำมาประกอบอาหารได้เช่นกัน เปลือกมะรุมหากนำมาต้มกับเม็ดเก๋ากี๋
และฮ่วยซัวจะทำให้น้ำแกงมีรสอร่อยมีคุณค่าทางอาหารสูง


เมล็ดแก่

เมล็ดมะรุมก็เช่นเดียวกับใบมะรุมมีคุณค่ามหาศาล เพียงวันละ 1 เม็ดก่อนนอน
จะช่วยให้การขับถ่ายในตอนเช้าเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เมื่อการขับถ่ายกลับเป็น
ปกติ ขอแนะนำควรหยุดทานเพราะเมล็ดมะรุมเป็นยาปฏิชีวนะอย่างอ่อน


น้ำมันมะรุม

นอกจากประโยชน์ต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว เมล็ดมะรุมยังให้น้ำมันที่มีคุณสมบัติ
เป็นเลิศอีกด้วย


 สรรพคุณของน้ำมันมะรุม
1. ใช้ปรุงอาหารได้เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก
2. ช่วยบำรุงผิวแห้งให้ชุ่มชื้น และช่วยชลอความเหี่ยวย่นของผิว

3.
ช่วยรักษาโรคเชื้อราตามผิวหนัง เช่น น้ำกัดเท้า
,
4.
ช่วยรักษาแผลถูกมีดบาด หรือแผลสดเล็กๆน้อยๆ

5.
ลดอาการผื่นคันตามผิวหนัง

6.
ลดอาการปวดบวมของโรคไขข้ออักเสบ , โรคเก๊าท์

7.
ช่วยรักษาอาการแผลในช่องปาก

8.
นวดกระชับกล้ามเนื้อบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

9.
ช่วยบรรเทาอาการเกิดสิวบนใบหน้า

10. ช่วยลดจุดด่างดำของผิว

11.
ใช้นวดศีรษะรักษาโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ

12.
ช่วยถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
13.
บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย

14.
ใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นประจำบ้าน ทำให้สิ่งของไม่เป็นสนิม


วิธีทำน้ำมันมะรุม

นำเมล็ดมะรุมที่แห้งคาต้น(ต้องแห้งคาต้น) มาบดให้ละเอียด ใส่หม้อ
เติมน้ำให้ท่วมเป็น2เท่า ตั้งไฟเดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวไฟอ่อนๆ

ไปเรื่อยๆ พอน้ำเริ่มงวด น้ำมันจะซึมขึ้นมา เช่นเดียวกับการทำ

น้ำมันมะพร้าว ถ้ามีน้ำเหลือติดนิดหน่อยไม่เป็นไร ทิ้งให้เย็น

แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง บีบน้ำมันออกให้มากที่สุด นำน้ำมันที่บีบได้

ไปตั้งไฟอ่อนๆอีกครั้ง เพื่อให้น้ำระเหยออกให้หมด พอเย็นกรอกใส่ขวด

เก็บไว้ใช้ได้นาน


เปลือกจากลำต้น

นำเปลือกจากลำต้นมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ รวมกับเปลือกต้นปีป ถ้าไม่มีปีปใช้อย่างเดียว
ก็ได้นำมาห่อในผ้าขาวบางทำเป็นลูกประคบ นึ่งให้ร้อนแล้วนำมาประคบ

แก้โรคปวดหลังหรือปวดขาได้เป็นอย่างดี


ดอกมะรุม

ดอกมะรุมต้องรับประทานสุกเท่านั้น ใช้ต้มทำน้ำชา กลิ่นชาจะช่วยทำให้
นอนหลับสบาย นำมาชุบไข่ทอดหรือทำแกงส้มก็ได้ แต่ไม่ควรรับประทาน

มากเกินไป จะทำให้ท้องเสีย


ถ้าปลูกมะรุมไว้ที่บ้านก็เปรียบเสมือนได้ย้ายโรงพยาบาลมาไว้ในบ้านนั่นเอง
 

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
หนังสือนาฬิกาชีวิตตอน2
มะรุมต้นไม้เพื่อชีวิต

รวบรวมโดย คุณวิไลวรรณ อนุสารสุนทร










Advertising Zone    Close


Online: 1 Visits: 4,848 Today: 3 PageView/Month: 21

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...